บ่มน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า วิธีเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าโดยตัวเอง


แม้ว่าศักยภาพของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป แต่เป็นที่รับรู้กันในวงกว้างสำหรับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า ว่า “การบ่ม” คือส่วนหนึ่งหรือวิธีการจะทำให้ส่วนผสมในน้ำยาเข้าที่มากขึ้น แทนที่จะอยู่แบบกระจายตัว ก็กลับกลายมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แทนที่จะบาดคอ ก็กลับกลายมาเป็นนุ่ม หอม นัว ลื่นไหล โดยการบ่มน้ำยา ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลักๆ 3 อย่างด้วยกัน คือ ความมืด อุณหภูมิ และอากาศ บวกกับความอดทนอีกนิด

แต่มันก็เกิดคำถามอีกนั้นแหละ ว่าถ้ามันดีแล้วมันง่ายๆขนาดนี้ ทำไมผู้ผลิตไม่บ่มมาให้ดีไปเลย ทำไมเราต้องมาทำต่อเอง ทาง PODBKK จึงขอชี้แจ้งดังนี้ จริงๆแล้วกระบวนการบ่มน้ำยาจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่ส่วนผสมต่างๆถูกรวมเข้าด้วยกันแล้วกรอกใส่ขวด เก็บขึ้นชั้น จนถูกจัดส่งผ่านบรรดาพ่อค้าแม่ค้า มาจนถึงมือผู้ใช้งาน ระหว่างการจัดส่งพื้นที่มาน้ำยาก็จะเริ่มทำการบ่มตัวเองมาเรื่อยๆ ซึ่งโดยปกติบรรดาผู้ผลิตก็จะคำนวนเอาที่เหมาะที่สุด ที่เห็นควรว่าน้ำยาของตนเองได้บ่มมาอย่างทั่วถึงโดยบวกเวลาขนส่งเข้ากับเวลาที่ของพักที่ร้านค้า เพื่อให้ได้ของที่ออกมาในรสหรือคุณภาพระดับกลาง ซึ่งเท่ากับว่าตลอดระยะเวลาที่ขนส่งมาก็เป็นการบ่มไปด้วยในตัวนั้นเอง 

ถึงกระนั้น เราก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าของที่เราได้รับมาจากร้านนั้นจะมาในช่วงไหน ของนั้นจะบ่มมานานพอหรือยัง ในวันนี้เราจึงมาแนะนำวิธีการบ่มแบบต่างๆให้ได้เลือกใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยากันเลย

  1. การบ่มแบบปกติ แม้จะใช้ระยะเวลานานค่อนข้างนานในการบ่ม แต่ง่าย ประหยัด สะดวกและทุกคนสามารถทำได้ ขั้นตอนเริ่มต้นที่ เขย่าน้ำยาหลังจากนั้นบีบขวดไล่ลมเข้าออกประมาณ 30 ครั้ง (เพื่อให้ออกซิเจนได้เข้าไปโดนน้ำยา) ปิดฝาและเขย่าขวด ก่อนนำไปเก็บเข้าตู้มืดทำวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ที่นั้นเอง 
  2. การแบ่ คือ การรวมตัวของวิธี แช่+บ่ม ขั้นตอนของวิธีการนี้ คือ การกรอกน้ำยาลงในขวดแก้ว หลังจากนั้นจึง เติมน้ำร้อนลงในกะละมัง (อุณหภูมิประมาณ 60-80c) ใส่ขวดแก้วลงในถุงซิปล๊อกและไล่ลมออก นำถุงไปแช่ลงในอ่างน้ำร้อนจนน้ำหายร้อนแล้วเอาขึ้นจากน้ำ หลังจากนั้น จึงเปิดฝาน้ำยาตั้งไว้ 60-120นาทีราว 2 ชั่วโมง ปิดฝาเพื่อเช็คอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็เขย่าให้เข้าที่ แล้วจึงนำไปเก็บเข้าในตู้มืด ปล่อยทิ้งไว้ 1 วัน รุ่งขึ้นค่อยมาลองว่าชอบรึยัง ถ้ายังไม่ได้กลิ่นที่ชอบ สัมผัสที่ใช่ก็ต้องลองทำวนไปอีกเรื่อยๆ จนลงตัวสำหรับวิธีการนี้ข้อดี คือ ประหยัดเงิน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาที่ต้องเสียไป ทั้งข้างเปลืองเวลาและความอดทนของเราเองด้วยนั้นเอง